New iPad (iPad 3) แกะกล่องลองสัมผัสครั้งแรก

    หลังจากที่เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมาบริษัท Apple ได้เผยโฉมแท็บเล็ตรุ่นล่าสุดของพวกเขาอย่าง New iPad ซึ่งมาพร้อมกับคุณสมบัติใหม่ๆ ที่ได้รับการเพิ่มเติมเข้ามาจากใน iPad 2 รุ่นเดิมที่ได้รับเสียงตอบรับในแง่บวกอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นหน้าจอความ ละเอียดสูงแบบ Retina Display ความละเอียด 2048x1536 พิกเซลที่ว่ากันว่าคุณภาพสูงกว่าการรับชมภาพยนตร์ผ่านจอ HDTV เสียอีก,
    ชิปเซ็ตเวอร์ชันล่าสุด A5X ที่ได้รับการอัพเกรดในส่วนของหน่วยประมวลผลกราฟิค Quad Core Graphics เพื่อตอบสนองความต้องการของนักเล่นเกมส์ทั้งระดับมือสมัครเล่นและฮาร์ดคอร์ เรื่อยไปจนถึงกล้องหลังใน New iPad ที่เรียกว่า iSight ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่สามารถถ่ายภาพได้คมชัดไม่แพ้กล้องเทพใน iPhone 4S เลยแม้แต่น้อยเป็นต้น แน่นอนว่าในฐานะที่สยามประเทศของเราก็มีสาวก Apple อยู่เป็นจำนวนไม่แพ้ชาติใดในโลก นั่นจึงช่วยส่งผลให้กระแสความต้องการ New iPad เครื่องหิ้วในบ้านเราเวลานี้พุ่งสูงมากระดับติดเพดานเสียจนผู้ค้าและร้านตัว แทนจำหน่าย New iPad เครื่องหิ้วในมาบุญครองและอีกหลายแห่งไม่สามารถนำเครื่อง New iPad เข้ามาวางขายได้ทันตามความต้องการของลูกค้า Apple ทั้งหลายที่อยากสัมผัสกับตัวจริงของ New iPad ให้รวดเร็วที่สุดไม่แพ้ 10 ประเทศแรกในโลกที่วางจำหน่าย New iPad ก่อนใครเพื่อน ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าคงมีสาวก TechXcite ของเราจำนวนมากที่กำลังเกิดอาการลังเลสองจิตสองใจอยู่ว่าจะซื้อ New iPad กันดีหรือไม่เพราะดูผ่านๆ แว่บแรกไปแล้วก็เหมือนว่า Apple เองก็ไม่ได้เพิ่มอะไรเข้ามาใหม่มากนักใน New iPad รุ่นที่ว่านี้ อย่างไรก็ตามก็ต้องขอบอกว่าเป็นความโชคดีของ ป๋าเอก TechXcite มากๆที่เราได้รับการสนับสนุนเครื่อง New iPad ใหม่ๆ ซิงๆ ส่งตรงจากสิงคโปร์มาจากทาง พี่ต้นแห่งช็อป Differshield ให้เราได้มา Review กันแบบเต็มที่ซึ่งผมเองก็กะจะจัดไปยาวๆ สัก 2 สัปดาห์ (ไหนๆ ก็ซื้อของคุณพี่เขามาแล้วนิ 555+) เอาให้ทุกท่านรู้กันทุกแง่ทุกมุมใน New iPad นี้เลยว่าของดีจริงนั้นมันดีมาจากภายในใช่ภายนอก (More than meets the eye) ว่าแล้วก็ขอเชิญแฟนๆ TechXcite ไปติดตามชม Review: New iPad (iPad 3) EP 1 กับการแกะกล่องลองสัมผัส New iPad ตัวจริงเสียงจริงไปพร้อมๆ กับ ป๋าเอก TechXcite กันเลยดีกว่า!!!

นี่ครับหน้าตากล่องของ New iPad รุ่นใหม่ จุดสังเกตจะอยู่บริเวณพื้นหลังในรูป New iPad ที่เป็นสีฟ้าเข้มต่างจากในกล่อง iPad 2 อันนี้เผื่อเป็นจุดสังเกตแรกเผื่อใครไปซื้อจะได้ไม่โดนหลอกครับ

โลโก้ iCloud ข้างกล่อง New iPad

สำหรับเครื่องที่ได้รับมา Review จากคุณต้น Differshield นั้นเป็นรุ่น New iPad WiFi 4G 32GB White โดยราคาที่ขายกันอยู่ในท้องตลาดมาบุญครองตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 30,000 - 31,000 บาทครับ

ยืนยันสเปคใต้กล่อง New iPad กันอีกที ถึง 4G บ้านเรายังไม่มีแต่ก็ซื้อไว้เผื่อโตละกัน :)

ภายในกล่อง New iPad ก็จะมีอุปกรณ์เสริมที่แถมมาด้วยเบๆเหมือนเช่นเคยไม่ว่าจะเป็นสายเคเบิ้ล 30-pin dock connector, หัวปลั๊กเสียบชาร์จแบตเตอรี่ (ของผมเครื่องสิงคโปร์จะเป็นแบบสามหัวนะฮะ), แผ่นกระดาษ (อย่าเรียกว่าหนังสือเลย) คู่มือการใช้งาน New iPad แล้วก็ลวดแยงรูสำหรับใส่ไมโครซิมครับ

หน้าตาลวดแยงรู...เอ้ย! ลวดเกี่ยวสล็อตใส่ไมโครซิมราคาเป็นหมื่นใน New iPad เอามั้ยล่าพี่น้อง!?

มาดูหน้าตาของ New iPad กันบ้างดีกว่า แวบแรกที่เห็นและทุกคนต้องประทับใจกันแน่ก็คือหน้าจอความละเอียดสูงแบบ Retina Display ใน New iPad ที่จะทำให้คุณหันหลังกลับไปมอง iPad รุ่นก่อนๆและบอกตัวเองว่า ทำไมเราถึงทนใช้แท็บเล็ตหน้าจอไม่ชัดมาซะตั้งนานสองนานเนอะ แต่ถ้าพูดถึงภายนอกตัวเครื่องโดยรวมแล้วแทบจะไม่แตกต่างจาก iPad 2 เลยแม้แต่น้อย (ถ้ามองผ่านๆ รับรองว่าดูไม่ออกแน่ว่าอันไหนเป็นอันไหน)

หน้าแรกใน Home Screen ของ New iPad มีแอปฯ เหมือนใน iPad 2 ทุกประการแต่ไอคอนและฟอนต์ตัวอักษรต่างๆ จะดูสวยงามเหมือนพิมพ์บนหนังสือยังไงยังงั้นเลยละ

ด้านขวามือของ New iPad มีปุ่ม Mute/Lock Rotation และปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียงตามปกติ ส่วนทางด้านบนมีปุ่ม Power ปิด-เปิดและล็อคหน้าจอเครื่องครับ

ส่วนทางด้านซ้ายบนของ New iPad จะเป็นสล็อตสำหรับใส่ไมโครซิมการ์ดและขยับกันขึ้นมาอีกนิดจะเป็นช่องเสียบหู ฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. ครับ

ด้านบนหน้าจอ Retina Display เป็นกล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลแบบ VGA กากๆ เช่นเคย

พอร์ต USB แบบ 30-pin ของ New iPad ยังคงมีให้ใช้งานเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง

พลิกกลับมาที่ฝาหลังด้านล่างของ New iPad ก็จะเจอกับตะแกรงลำโพงตัวเดียวด้านเดียวเหมือนเคย (แหม่...น่าจะปรับเป็น 2 ฝั่งได้แล้วนะจ๊ะ Apple จ๋า

ตรงกลางฝาหลัง New iPad มีโลโก้ Apple สวยเด่นเป็นสง่าให้หลายคนได้ระแวงกลัวว่าจะเป็นรอยหรือเปล่า 555+

เท่าที่เห็นรู้สึกว่าจะมีแต่รูกล้องหลังของ New iPad เท่านั้นที่จะใหญ่กว่าของเดิมใน iPad 2 อยู่พอสมควร (ก็แหงละนะ...จาก VGA อัพไปเป็น 5 ล้านพิกเซลนี่นา)

เปรียบเทียบหน้าตาภายนอกของ New iPad กับ iPad 2

หน้าตาภายนอกของ New iPad กับ iPad 2 นั้นเรียกได้ว่าเหมือนกันอย่างกับแกะ รับรองว่ามองภายนอกแล้วไม่เห็นความแตกต่างชัวร์ (ถ้าไม่เปิดหน้าจอ Retina Display โชว์อะนะ) แต่เท่าที่ผมได้สัมผัสมารู้สึกว่าตัวเครื่อง New iPad จะหนักกว่า iPad 2 อยู่ประมาณซัก 50 กรัมได้ คือถ้าเคยใช้ iPad 2 แล้วมาลองจับตัวนี้จะรู้สึกได้ว่ามันหนักขึ้นนิดหน่อยจริง แต่ก็ไม่ได้มีผลกับการทำงานทั่วไปแต่อย่างใด

New iPad นั้นจะหนาประมาณ 9.4 มิลลิเมตร ในขณะที่ iPad 2 นั้นจะบางเพียงแค่ 8.8 มิลลิเมตรเท่านั้น แต่รับรองได้ครับว่าเวลาใช้งานแล้วคุณจะไม่เห็นความแตกต่างเรื่องความบางของ ตัวเครื่องที่ 0.6 มิลลิเมตรที่เพิ่มเข้ามาซักเท่าไหร่หรอกฮะ :P

รูกล้องหลังของ New iPad จะใหญ่กว่า iPad 2 อยู่นิดหน่อยครับ คงต้องไปดูเคสของคุณแล้วละว่าเขาเจาะรูเอาไว้ใหญ่พอที่จะเอาเคส iPad 2 ไปใช้กับ New iPad ได้แบบเนียนๆ หรือเปล่า :)

เปรียบเทียบหน้าจอของ New iPad กับ iPad 2 นี่แหละคือจุดขายที่สร้างความแตกต่างอย่างใหญ่หลวงด้วยหน้าจอ Retina Display สุดคมชัด (จริงๆ) ถ้าให้เปรียบเทียบอารมณ์มันจะเหมือนกับตอนคุณๆใช้งาน iPhone 3GS กันอยู่แล้วโดดข้ามมาเจอหน้าจอ Retina Display ของ iPhone 4 อย่างนั้นเลยแหละ

เปรียบเทียบหน้าจอของ New iPad จะคมชัดกว่าใน iPad 2 ถึงสองเท่าด้วยกัน ลองสังเกตฟอนต์ตัวอักษรและรูปไอคอนให้ดีว่าของ New iPad นั้นจะเหมือนตัวพิมพ์บนหน้าหนังสือยังไงยังงั้นเลย!!!

ตัวอักษรบนแป้นคีย์บอร์ดใน iPad 2 มองไกลๆ ก็เห็นแล้วว่าเป็นเม็ดพิกเซลแตกๆ ที่มารวมตัวกันบนหน้าจอ

ทว่ากับ New iPad คุณจะได้เห็นความชัดเจนในทุกตัวอักษรหรือรายละเอียดของภาพแบบสวยงามอย่างที่ คุณจะไม่เคยเห็นมาก่อนในอุปกรณ์ IT ตัวไหนแน่ๆ อ้อ! สังเกตดีๆ ที่แป้นคีย์บอร์ดจะมีปุ่ม Siri Dictation พิมพ์ตามคำบอกให้ใช้งานใน New iPad ด้วยนะ (แต่รองรับเฉพาะภาษาที่กำหนดและต้องต่อเน็ตถึงจะเห็นปุ่มนี้เท่านั้นนะครับ)

นี่ไงครับความแตกต่างของหน้าจอความละเอียด 1024x768 พิกเซลของ iPad 2 กับหน้าจอ Retina Display สุดคมชัดความละเอียด 2048x1536 พิกเซลใน New iPad ซูมกันให้ดูใกล้ๆเต็มสองตากันไปเลยแล้วตัดสินเองว่าใครชัดกว่ากัน!!!


ก็ถือว่าเป็นการแกะกล่องลองสัมผัส New iPad ครั้งแรกกับ ป๋าเอก TechXcite เรียกน้ำย่อยในบทแรกเผื่อใครคิดจะไปซื้อ New iPad มาใช้งานจะได้รู้หน้าค่าตาคร่าวๆของตัวเครื่องและหยิบได้ถูกเครื่องไม่ต้อง ให้โดนหลอกจนเกิดดราม่าแบบไอโฟนห้าเมื่อคราวนู้น


ขอขอบคุณป๋าเอก@TechXcite