วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

ออสเตรเลียประกาศ โคอาลาเป็นสัตว์หายาก​

รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมพิจารณาให้โคอาลาเป็นสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ใน หลายพื้นที่ หลังจากพบว่า จำนวนโคอาลาตามธรรมชาติของออสเตรเลียลดลงอย่างรวดเร็ว

ถ้าหากโคอาลาได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ จะทำให้โคอาลาได้รับการปกป้องจากรัฐบาลกลาง โดยมีเงื่อนไขที่ครอบคลุมในพื้นที่ที่มีสัมปทานเหมืองแร่ สัมปทานป่าไม้ และโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย

นายโทนี่ เบิร์ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะขึ้นทะเบียนให้โคอาลามีสถานะเป็นสัตว์ประเภทหายากใกล้สูญ พันธุ์ในเขตตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐควีนสแลนด์ และสถานะล่อแหลมต่อการสูญพันธุ์ในพื้นที่ทางตะวันออกของรัฐนิวเซาท์เวลส์

แต่กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่างแสดงความกังวลว่า การขึ้นทะเบียนโคอาลาเป็นสัตว์หายากใกล้สูญพันธุ์ จะไม่ครอบคลุมทุกเขตที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของโคอาลา ซึ่งนางเดบอราห์ ทาบาร์ต (Deborah Tabart) จากมูลนิธิโคอาลาออสเตรเลีย ซึ่งเคยทำงานให้กับวุฒิสภา ยืนยันว่า เธอพบการวิ่งเต้นของกลุ่มอุตสาหกรรมป่าไม้ที่พยายามให้ยกเว้นบางพื้นที่ที่ พวกเขามีผลประโยชน์ทางธุรกิจอยู่

ในปัจจุบัน จำนวนโคอาลาในป่าของออสเตรเลียมีน้อยกว่า 8 หมื่นตัว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงและการทำลายพื้นที่ ป่าในบริเวณถิ่นที่อยู่ของโคอาลา ขณะที่งานวิจัยในชิ้นหนึ่งระบุว่า ตั้งแต่ปี 2536 จนถึงปัจจุบัน จำนวนโคอาลาลดลงถึงร้อยละ 75

ซีอีโอ Kaspersky จวกความปลอดภัยของ Mac ล้าหลัง Microsoft เป็น 10 ปี

ยูจีน แคสเปอร์สกรี้ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์รักษาความปลอดภัย Kaspersky Lab เปิดเผยว่า ในแง่ของการรักษาความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ แมคจากแอปเปิ้ล ยังห่างไกลจากไมโครซอฟท์อย่างน้อยเป็น 10 ปี และเขาก็เชื่อว่าบริษัทจากคูเปอร์ติโนสามารถที่จะเรียนรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น จากไมโครซอฟท์และจะต้องมีการทบทวนวิธีการในการปรับปรุงความปลอดภัยหลังจาก ที่ถูกภัยคุกคามโจมตีเมื่อเร็วๆ นี้

โดยแคสเปอร์สกี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ CBR ที่งาน Info Security 2012 ที่จัดขึ้นที่กรุงลอนดอนว่า การโจมตีของมัลแวร์ Flashback เมื่อเร็วๆ นี้ ดูเหมือนจะเป็นจุดเริ่มต้นของการโจมตีเครื่องแมคในฐานะที่กลายเป็นแพลตฟอร์ มที่ได้รับความนิยม ที่ซึ่งแตกต่างจากแต่ก่อน “พวกเราเข้าใจมากๆ ว่า เวลานี้พวกเขากำลังประสบปัญหาเดียวกับที่ไมโครซอฟท์เคยเจอเมื่อ 10-12 ปีก่อน พวกเขาต้องทำการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขวงจรในการปรับปรุง และต้องลงทุนมากขึ้นในการตรวจสอบความปลอดภัย” เมื่อไม่นานมานี้ แมคได้ถูกมัลแวร์ที่มีชื่อว่า Flashback โจมตี และมีเครื่องทีได้รับผลกระทบมากถึง 600,000 เครื่องทั่วโลก โดยเป็นผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาถึง 56% ก่อนที่จะถูกกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถล่มจากผู้ใช้มากมายถึงการไม่จัดการปัญหา ที่รวดเร็วเท่ากับบริษัทซอฟท์แวร์ความปลอดภัย


 ขอบคุณข้อมูลจาก Pantip.com

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

เชื่อหรือไม่คนไทย มีหนี้ที่ตัวเองไม่ได้ก่อ

เชื่อหรือไม่?!! คนไทยมีหนี้ที่ไม่ได้ก่อ  เฉลี่ยคนละประมาณ 48/วัน/คน

เรื่องนี้มายังไง ต้องเท้าความไปในอดีตค่อนข้างไกลสักหน่อย ตอน ปี1993 เราควบคุมค่าเงินบาทอยู่ พูดง่ายๆก็คือ 25/1ดอลล่าห์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลง นโยบายแบบนี้เรียกว่าการปิดกั้นทางการเงิน ไปกู้ต่างประเทศก็ค่อนข้างจะยาก เพราะเนื่องจากนโยบายที่ปิดกั้น แต่ทีนี้ใครสักคนในรบ. เล็งเห็นว่า ฮ่องกงในขณะนั้น กำลังจะกลับคืนสู่จีนในปี 2000 (ฮ่องกงเป็นศูนย์กลางทางการเงินเอเซีย)
 

"เราเลยคิดการใหญ่เป็นศูนย์กลางทางการเงินเอเซียแทนฮ่องกง"

ก็เลยออกนโยบายปล่อยเสรีทางการเงิน ทำให้เอกชนสามารถเข้าไปกู้เงินจากต่างประเทศได้โดยสะดวก ทีนี้ก็กู้กันใหญ่เพราะดอกมันต่างกันมาก กู้ในประเทศดอกอยู่ที่ประมาณ 13-17% กู้ต่างประเทศดอก 5 ก็เลยมีการกู้ต่างประเทศมาแล้วปล่อยในไทย กินส่วนต่างตรงนี้เศรษฐกิจพุ่งพรวด อสังหาริมทรัพย์ ผุดเป็นดอกเห็ดตลาดหุ้นโตวันโตคืน จนมีคนกล่าวว่าประเทศไทยกำลังเป็นเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย

และแล้วฝันก็สลายลงในหายนะครั้งใหญ่ของประเทศที่เรียกว่า "วิกฤติการต้มยำกุ้ง"

ปี 2540 การมาถึงของ จอร์จ โซรอส กลุ่มทุนของนายคนนี้โจมตีค่าเงินบาท จนชนะ ทำให้ค่าเงินบาทต้องประกาศลอยตัว (ที่น่าเจ็บปวดก็คือมีคนไทยสองกลุ่มร่วมด้วย) ผลของความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น เงินทุนสำรองที่มีอยู่กว่า 3 หมื่นล้านเหรียญ เหลือแค่ 2800 ล้าน รัฐบาลขณะนั้นต้องประกาศค่าเงินบาทลอยตัว

เงินบาทจากที่ 25/1 กลายเป็น 50/1 หนี้ที่เอกชนไปกู้ไว้เพิ่มเป็นสองเท่าในพริบตา ซึ่งส่วนใหญ่ที่ไปกู้ไว้เป็นหนี้ระยะสั้นคือมีกำหนดใช้ให้หมดในประมาณ 5 ปี ก็เจ๊งสิครับพี่น้อง ไม่มีเงินใช้เขา ถูกฟ้องล้มละลายกันทั่วหน้า  ทุกวันนี้ยังมีซากแห่งความพ่ายแพ้ในรูปแบบตึกที่สร้างไม่เสร็จอยู่เลย คนตกงานเป็นล้านๆ คน ค้าขายกับต่างประเทศไม่ได้  

เพื่อแก้ไข รัฐบาลในขณะนั้นต้องเข้าไปอุ้มหนี้เอาไว้เพราะไม่งั้นจะไม่มีเครดิต เวลาไปค้าขายต่างประเทศ และหนี้ที่ขึ้นในตอนนั้นมีมูลค่าประมาณ "1300 ล้านล้านบาท"

 
บางคนอาจจะคิดว่าผมพิมพ์ผิดหรือเปล่า ไม่ผิดครับเลขศูนย์มีทั้งหมด  14 ตัว ย้ำอีกที "1300 ล้านล้านบาท" ในเมื่อไม่มีเครดิต รัฐบาลในขณะนั้นทำยังไง ไปกู้ใครเขาก็ไม่ให้เพราะไม่มีเครดิต  ก็เลยต้องไปกู้กองทุนระหว่างประเทศหรือที่เราเรียกว่า  IMF นั่นเอง (เพื่อมาโปะหนี้ตรงส่วนนี้)

และเมื่อมาถึงสมัยของ "ท่านผู้นั้น" และขอยินดีด้วย "ท่านผู้นั้น" ใช้หนี้  IMF ไปจนหมด เอ้าเฮ ~
 

แต่!!!  อย่าพึ่งดีใจไป เรากู้ไอเอ็มเอฟมานี่เราใช้ไปแค่ดอก จาก 8000 ล้าน ใช้ไป 3000 ล้าน พูดง่ายๆก็คือเราติดหนี้เค้าอยู่ล้านหนึ่ง ใช้ไปแค่ 3000 เหอๆ ผ่านมาห้า รัฐบาลแล้วยังไม่หมดหนี้เลย ที่ว่า รัฐบาลใหม่ต้องกู้เพราะรัฐบาลก่อนหน้านั้น ใช้เงินไปหมดแล้วไม่เป็นความจริงนะจ๊ะ เราจนมาตั้งนานแล้ว

ทีนี้มันเกี่ยวกับเรายังไงคือต้องเข้าใจก่อนว่าหนี้ที่เกิดขึ้นเนี่ย รัฐบาลกับธนาคารกลางแห่งประเทศไทยแบ่งใช้กันคนล่ะครึ่ง หนี้ที่เกิดขึ้นมันจะมาในรูปแบบภาษี ดอกเบี้ยเงินฝากที่ ลดลง และดอกเบี้ยเงินกู้ที่มากขึ้นซึ่งก็คือเราต้องจ่ายหนี้ที่ไม่ได้ก่อนี่ เฉลี่ยแล้วคนละ 48/วัน/คน(คิดจากคนไทยมีหกสิบล้านคน)

บทเรียนจากวิกฤติครั้งนั้นน่าเสียดายที่ ในบทเรียนไม่เคยมีสอนเลย เด็กรุ่นใหม่ก็ไม่รู้ อย่าว่าแต่เด็กรุ่นใหม่เลย รุ่นกลางเก่ากลางใหม่ (28) อย่างผมยังไม่ค่อยรู้เลย (ผู้เขียน)

ทุกวันนี้เราสอนถึงความเจ็บปวดในครั้งนั้นหรือเปล่า ผมเห็นเด็กด่าแม่เพียงแค่เพราะไม่ซื้อโทรศัพท์บีบีให้  เรากำลังสอนให้เด็กเน้นหนักไปทางวัตถุนิยม  สอนให้ฟุ้งเฟ้อโดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาหรือเปล่า วิกฤติครั้งเราทำกันด้วยน้ำมือของเราทุกคน น่าเสียดายที่เราไม่มีการสอนให้เรียนรู้ถึงข้อผิดพลาดของตัวเอง อาาา ยินดีด้วยประเทศไทย



บทความจาก http://www.pantip.com/cafe/social/topic/U11995565/U11995565.html (เข้าไปอ่านคอมเม้นกันต่อได้ที่นี่เลยนะ)

วันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2555

เปิดหลักฐานปล้นประเทศไทย ตอนที่ 2


เปิดหลักฐานปล้นประเทศไทย ตอนที่ 2 - ที่ภาคแรก ตอนแรก คนเปิดดูเปิดฟังแล้วสองแสนกว่า เรื่องนี้ ฉะ ปตท.แบบจัดหนักเมื่อตอน รมต.คลังจะทำ ปตท.เป็นเอกชนเบ็ดเสร็จที่กระทรวงการคลังจะถือหุ้น เพียง 49% .... (ช่วยกันแชร์ครับ ช่วยกันครับ)


ที่สุดของเว็บไซต์ Freeware / Shareware

ในปัจจุบันนี้เป็นเรื่องง่าย สำหรับท่านที่ต้องการหาโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ที่เป็นแบบฟรีแวร์และแชร์แวร์ ไว้ใช้ในงานของคุณ เพราะสังคมออนไลน์สมัยนี้กว้างไกลมาก เว็บไซต์ที่บริการไฟล์ประเภทนี้มีอยู่มากมาย รอผู้ที่ต้องการจะดาวน์โหลดอยู่ตลอด 24 ชม.

วันนี้ก็ขอรวบรวมเว็บไซต์ที่บริการให้ดาวน์โหลดฟรีแวร์และแชร์แวร์ ที่นักท่องเน็ตในต่างประเทศนิยมใช้บริการมาฝาก เผื่อคุณผู้อ่านสนใจก็ตามไปใช้บริการได้

 เว็บไซต์ดีเด่น (Outstanding Sites)

 SoftPedia  เว็บไซต์บริการเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีการจัดหมวดหมู่อย่างยอดเยี่ยมโดยแพ ลตฟอร์มทำให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงไฟล์ได้ดี นอกจากนี้ยังมีการเปิดให้ผู้ใช้บริการให้คะแนน (Ratings) และความคิดเห็นกับไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดด้วย แต่จุดเด่นหรือจุดขายสำหรับเว็บไซต์นี้คือการรับประกัน100% ว่าไฟล์ที่ดาวน์โหลดจากที่นี่ปลอดภัยจากสิ่งแปลกปลอมพวก Malware 


SnapFiles / WebAttack อีกหนึ่งเว็บไซต์บริการไฟล์ที่เรียกใหญ่ค่ายหนึ่ง การจัดเรียงข้อมูลไฟล์ทำได้ดี หน้าเว็บดูสะอาดตา การนำเสนอของเว็บทำได้ดี ผู้ใช้ๆงานได้สะดวก มีการรีวิวโปรแกรมให้ผู้ใช้ได้ศึกษาก่อน พร้อมเปิดให้ผู้ใช้ให้คะแนนและความคิดเห็นได้

FileHippo เว็บไซต์ออกแบบด้วยโทนสีที่ดูสะอาดเรียบๆ แบ่งเป็นหมวดหมู่ชัดเจนและมากมายกว้างขวางหลายหมวดหมู่ มีอัตราการดาวน์โหลดที่รวดเร็ว ทั้งยังมีการบอกประวัติรุ่นก่อนหน้าของไฟล์ที่ดาวน์โหลดให้คุณพิจารณาในการ ดาวน์โหลดด้วย

MajorGeeks เว็บ ไซต์ นี้จัดเรียงไฟล์เป็นหมวดหมู่เรียงตามตัวอักษร เพียงเข้ามาที่หน้าแรกก็คลิกเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการได้แล้ว มีการให้คะแนนของผู้ใช้ จุดเด่นของเว็บคือมี Mirror Site ที่เก็บไฟล์หลายที่ทำให้สะดวกต่อผู้ใช้ที่จะเลือกจุดดาวน์โหลดได้ดี

FileForum-Betanews เว็บ ไซต์ นี้มีการเก็บไฟล์ที่จะให้ดาวน์โหลดไม่มากเท่ากับเว็บที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่มีจุดเด่นคือ ถ้าคุณกำลังมองหาโปรแกรมรุ่นใหม่ล่าสุด คุณจะพบได้ที่นี่ก่อนเว็บไซต์อื่นๆ แน่นอน

เว็บไซต์แนะนำ (Recommended Sites)
ZDNet และ CNet Downloads เว็บไซต์ทั้งสองถ้าดูที่หน้าเว็บและชื่อก็จะต่างกัน แต่ความจริงแล้วก็เป็นเว็บเดียวกัน เพราะมีเจ้าของเป็นบริษัทเดียวกันกัน เป็นเว็บไซต์เก็บไฟล์หรือซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุด การหาไฟล์ที่คุณต้องการจะทำง่ายเพราะมีเครื่องมือค้นหา (Search) ที่ดีที่สุด
แต่มีขอติและเตือนให้คุณๆ ระวังโปรแกรมบางโปรแกรมมักจะมีโปรแกรมพ่วงของผู้พัฒนาโปรแกรมที่คุณดาวน์ โหลด คือเมื่อทำการติดตั้งจะมีการถามหรือให้คุณกรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณ ซึ่งส่วนตัวแล้วคิดเป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว

Tucows เว็บไซต์ที่มีจำนวนหมวดหมู่ไฟล์มากมายและมี Mirror Site อยู่ทั่วโลกทำให้มีการดาวน์โหลดที่รวดเร็ว

ServerFiles.com  หรืออีกชื่อก็คือ www.32bit.com เว็บไซต์เก่าที่มีความเชี่ยวชาญในซอฟต์แวร์เซิร์ฟเวอร์สำหรับผู้ดูแลระบบ เครือข่ายและผู้เชี่ยวชาญด้านไอที ถ้าคุณเป็นคนที่ทำงานด้านนี้หรือสนใจศึกษาด้านนี้ก็มาที่นี่ได้เลยรับรองไม่ ผิดหวัง

No-Nags  เป็นเว็บไซต์ฟรีแวร์ดาวน์โหลดที่ดีที่สุดเว็บหนึ่ง มีการเก็บไฟล์ไว้มาก การบริการมีทั้งบริการฟรีและบริการพรีเมี่ยม (เสียเงิน) ซึ่งจะมีการระบบช่วยเหลือคุณในการใช้บริการได้มากกว่าฟรีแวร์

topshareware.com  เว็บไซต์ที่น่าสนใจเว็บหนึ่ง บริการดาวน์โหลดที่จัดไฟล์ได้ดี มีการให้คะแนนไฟล์พร้อมทั้งมีรายงานรีวิวโปรแกรมจากผู้ใช้


ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ: Notebookspe

รู้หรือไม่งบเท่าไหร่ซื้อโน้ตบุ๊กแล้วคุ้มค่าที่สุด ??

รู้หรือไม่งบเท่าไหร่ซื้อโน้ตบุ๊กแล้วคุ้มค่าที่สุด ??
ทุกวันนี้ ยอดของผู้ใช้โน้ตบุ๊กเพิ่มขึ้นเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง เนื่องด้วยเป็นคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการพกพาไปใช้ในสถานที่อื่นด้วย อรรถประโยชน์ก็ครอบคลุมเท่าที่คอมพิวเตอร์ทั่วไปจะทำได้ ไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ทำทำงาน ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ ทำให้คนหันมาซื้อโน้ตบุ๊กใช้งานกันเยอะขึ้น ซึ่งก็มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าควรจะมีงบเท่าไรถึงจะเหมาะที่สุดกับการซื้อ โน้คบุ๊กมาใช้งานซักเครื่องหนึ่ง ดังนั้น NBS เราจึงขอนำเสนอบทความนี้เพื่อช่วยในการตัดสินใจของทุกๆ ท่านครับ
 โดยในบทความนี้ จะคิดงบประมาณที่น่าซื้อที่สุดโดยวัดจากความคุ้มค่าของสเปกที่ใช้งานทั่วไป ไม่ได้เป็นเครื่องเฉพาะทาง เช่น เครื่องสำหรับเล่นเกม เครื่อง workstation เคลื่อนที่ หรือเครื่องที่มีการออกแบบมาเป็นพิเศษ แต่จะเน้นในกลุ่มเครื่องที่ใช้งานปกติ สเปกธรรมดา คุ้มค่าสำหรับการใช้งานทั่วไป ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง ทำงาน เล่นเกมได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งทาง NBS เราก็ขอสรุปเลยแล้วกันว่า งบที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับการซื้อโน้ตบุ๊กก็คือ 20,000 – 25,000 บาท ครับ
 โดยมีเหตุผลประกอบดังนี้

 1. สเปกของเครื่องที่ได้ อยู่ในระดับกำลังดี 
อันดับแรกที่จะพูดถึงเลยก็คือเรื่องสเปกของเครื่อง โดยในเครื่องระดับสองหมื่นบาทต้นๆ ไปจนถึงกลางๆ สเปกในปัจจุบันที่ควรจะได้ก็ได้แก่
  • CPU : Intel Core i5 Gen.2 หรือ AMD A6 เป็นต้นไป
  • RAM 4 GB เป็นอย่างต่ำ
  • การ์ดจอ NVIDIA GeForce GT 540M, GT 630M หรืออีกค่ายก็จะเป็น AMD Radeon HD 6630M, HD 7670M ซึ่งก็เพียงพอต่อการเล่นเกมได้อย่างสบายๆ
  • HDD : 500 GB ขึ้นไป
  • จอ 14 นิ้ว
  • มี USB 3.0

ซึ่งสเปกต่างๆ เหล่านี้ ครอบคลุมและสามารถใช้งานในงานประเภทต่างๆ ทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหาแล้วครับ โดยนับว่าเป็นราคาที่ถูกลงมากแล้ว เมื่อเทียบกับราวๆ 1-2 ปีก่อน ที่ถ้าอยากได้สเปกที่มีความแรงสำหรับใช้งานทั่วไปได้ทุกประเภทในสมัยนั้น รับรองว่างบทะลุ 30,000 บาทแน่นอน แถมสเปกนี้ ยังใช้งานไปได้อีกไม่ต่ำกว่า 3 ปีแน่นอนครับ ผมฟันธง !!! (ถ้ามันไม่เสียซะก่อนนะ)

 2. ซื้อแรงมากไป แพงไป อาจช้ำใจในภายหลัง
เทรนด์ของอุปกรณ์ไอทีมีการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างไว จะเห็นได้ว่ามีการออกอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ เช่น CPU และการ์ดจอกันใหม่ทุกปี (บางครั้งออกใหม่มาก็ไม่ได้แรงไปกว่ารุ่นเก่าเท่าไร) ดังนั้นหากใครคิดว่าซื้อแรงสุดแพงสุดตอนนี้ไปเลย แล้วไม่ต้องซื้อไปอีก 5-6 ปี อาจจะไม่คุ้มก็ได้ครับ สู้ค่อยๆ ซื้อแบบแรงกลางๆ ราคาไม่สูงมากจะดีกว่า แล้วรออีกซัก 1-2 ปีก็ค่อยซื้อใหม่ก็ได้ เผลอๆ ราคารวมอาจจะถูกกว่าซื้อของแพงแต่แรกเลยก็เป็นได้ แถมยังได้ของใหม่กว่า สดกว่าอีกต่างหาก เพราะโน้ตบุ๊กนั้น ซื้อเครื่องแรงเกินไปก็ไม่ดีครับ มันร้อนแล้วอยู่ใกล้ชิดกับมือเรามากกว่า desktop ดังนั้นซื้อแบบพอดีๆ จะดีกว่า สบายกระเป๋า สบายมือด้วย

 3. ตัวเลือกมีให้เลือกในตลาดค่อนข้างมาก

 4. ต่ำกว่านี้ก็ไม่มัน สูงกว่านี้ก็ไม่โดน
เมื่อ มองช่วงงบที่สูงขึ้นไปอย่าง 25,000 –30,000 บาท กับช่วงที่ต่ำลงมาอย่าง 15,000 – 20,000 พบว่าเป็นช่วงราคาที่โดยส่วนตัวผมคิดว่าไม่ค่อยโดนเท่าไร ดังนี้  ช่วง 25,000 – 30,000 นั้น สเปกส่วนใหญ่ก็ไม่หนีไปจากช่วง 20,000 – 25,000 บาทมากนัก จะมีเพิ่มมาก็คือเหล่าเครื่องที่ใช้ CPU เป็น Intel Core i7 เท่านั้น ซึ่งกลุ่มผู้ที่ตั้งใจว่าจะซื้อ i7 ก็คงต้องเตรียมงบไว้มากระดับหนึ่งอยู่แล้ว ส่วนสเปกเครื่องอื่นๆ ส่วนใหญ่นั้น ก็เป็นกลุ่ม i5 กับการ์ดจอช่วงเดียวกันกับ 20,000 – 25,000 บาท ดังนั้น กลุ่มที่เราแนะนำไปจึงน่าเล่นกว่า
 ส่วนช่วง 15,000 – 20,000 นั้น โดยมากสเปกจะเป็น Intel Core i3, Pentium, การ์ดจอออนบอร์ดทั้งหลาย ซึ่งจะเหมาะกับกลุ่มผู้ที่ต้องการเครื่องราคาไม่แพงมากกว่า โดยเครื่องในกลุ่มราคานี้ โดยมากจะถูกออกแบบมาสำหรับทำงานทั่วไปที่ไม่ใช่เชิงมัลติมีเดียหรือเล่นเกม ซักเท่าไร ดังนั้นกลุ่ม 20,000 – 25,000 จึงเป็นกลุ่มของเครื่องที่ครบเครื่อง overall มากกว่า และเป็นกลุ่มที่คุ้มค่ากว่า
ก็หวังว่าน่าจะเป็นตัวช่วยในการตัดสิยใจเลือกซื้อโน้ตบุ๊กของหลายๆ ท่านได้นะครับผม


ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ: notebookspec

วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

เครดิตบูโร การ์ตูนขำๆ แต่ได้ความรู้ จากนายพากเพียร

เครดิตบูโร ใช้หนี้ก่อนถูกฟ้อง
                เครดิตบูโรคือ สถาบัน ที่เก็บรวบรวมข้อมูลของการชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิต ซึ่งข้อมูลนี้จะประกอบไปด้วย ข้อมูลส่วนที่บ่งชี้ถึงตัวบุคคล เช่น ชื่อนามสกุล ที่อยู่ เลขประจำตัวประชาชน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นประวัติการชำระสินเชื่อบนระบบสถาบันการเงิน และการชำระบัตรเครดิตต่างๆ ทั้งหมดของบุคคลนั้น รวมเรียกว่า "รายงานข้อมูลเครดิต" รายงานข้อมูลเครดิตจะมีการบันทึกและจัดเก็บวงเงินยอดหนี้คงค้าง รวมถึงประวัติการชำระลักษณะปกติและผิดนัดชำระในแต่ละสิ้นเดือนย้อนหลังไม่ เกิน 36 เดือน
                โดยปัจจุบันมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ แบล็กลิส หรือ บัญชีดำ แบบผิดๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว เครดิตบูโรจะไม่มีสิทธิ์ในการจัดแบล็กลิสผู้ขอสินเชื่อ เพราะเครดิตบูโรจะทำหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลประวัติการชำระสินเชื่อหรือ บัตรเครดิตของสินเชื่อทุกบัญชีจากสถาบันการเงินตามข้อเท็จจริงเท่านั้น ซึ่งสถาบันการเงินจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณา อนุมัติสินเชื่อ เพราะการตัดสินใจว่าจะอนุมัติสินเชื่อหรือไม่นั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก เช่น รายได้ของผู้ขอสินเชื่อ หลักประกัน บุคคลผู้ค้ำประกัน เป็นต้น ในทางกลับกัน หากผู้ขอสินเชื่อมีประวัติการชำระสินเชื่อที่ตรงต่อเวลา และไม่มียอดหนี้คงค้างหรือมียอดหนี้คงค้างเป็นจำนวนเงินไม่มากนัก รายงานเครดิตบูโรก็จะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินพิจารณา อนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น
                โดยปกติทุกคนควรที่จะรักษาประวัติการชำระให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือตรงต่อเวลา ก็จะช่วยให้การขอสินเชื่อในอนาคตมีโอกาสได้รับอนุมัติที่สูงขึ้น การปล่อยให้ประวัติการชำระเงินค้างไปเรื่อย ๆ จะทำให้ถูกบันทึกว่าค้างชำระ จนกระทั่งอาจจะถูกสถาบันการเงินฟ้องร้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
สำหรับ ใครบางคนที่บอกว่าไม่เห็นจะมีเจ้าหน้าที่มาทวงถาม หรือไม่เห็นว่าสถาบันการเงินจะทำการฟ้องร้องตนเองเลย สาเหตุเนื่องมาจากว่าลูกหนี้เหล่านี้มักจะมีมูลหนี้ที่ค้างชำระไม่มาก ทางสถาบันการเงินจึงไม่คิดที่จะติดตามทวงถามอย่างจริงจังเนื่องจากไม่คุ้ม ค่าใช้จ่าย แต่ทางสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะมีการปล่อยให้ลูกหนี้เหล่านี้มีประวัติค้าง ชำระอยู่ในฐานข้อมูลเครดิตบูโรไปเรื่อย ๆ เมื่อใดก็ตามที่ลูกหนี้มีความจำเป็นที่จะต้องขอสินเชื่อเพิ่มเติมจากสถาบัน การเงินอื่นๆ ประวัติค้างชำระเหล่านี้จะลดโอกาสให้ลูกหนี้ได้รับการพิจารณาอนุมัติสิน เชื่อ สุดท้ายแล้วลูกหนี้จะต้องติดต่อกลับมาที่สถาบันการเงินที่ตนเองเคยมีประวัติ ค้างชำระอยู่ เพื่อทำการเจรจาชำระหนี้ที่คงค้างอยู่โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ตนเองกลับมามี สถานะผ่อนชำระเป็นปกติดังเดิม ดังนั้นแล้วความคิดที่ปล่อยให้มีประวัติค้างชำระไปเรื่อย ๆ คงจะเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะเราทุกคนคงจะไม่อยากมีปัญหาในอนาคตเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ เครดิตของตนเองในการขอสินเชื่อ

 
ขอบคณข้อมูลบางส่วนจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)
และนายพากเพียรแห่ง funfundforum.com

บ้านกับรถ ซื้ออะไรก่อนดี (การ์ตูนขำๆ)


    เป็นคำถามที่บางคนหนักใจ และคิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรก่อนดี โดยเฉพาะคนที่เพิ่งจบใหม่ ทำงานได้สัก 1-2 ปี มักอยากจะมีรถ เพราะยังไม่มีภาระอะไรมากมายในชีวิต และต้องการความเป็นอิสระในการเดินทาง สำหรับคนที่มีบ้านอยู่แล้วก็ดี แต่คนที่ยังไม่มีบ้าน ต้องอาศัยการเช่าอยู่ แต่กลับซื้อรถก่อน ซื้อสินค้าเงินผ่อน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ จะมีค่างวดรถ ค่างวดสินค้าปรากฏอยู่ในประวัติของเครดิตบูโร หรือเรียกอีกอย่างคือ ความสามารถในการผ่อนชำระจะลดลงในสายตาของสถาบันการเงิน ถ้าคนนั้นไปกู้บ้าน โอกาสผ่านจะน้อยลงไป (เยอะมากเลย) เพราะการพิจารณาสินเชื่อบ้านจะเข้มงวดกว่าสินเชื่อรถยนต์มาก

   ในการดำเนินชีวิตของคนเรา จะต้องมองชีวิตกันยาว ๆ ว่าจริงแล้ว จะต้องมีการซื้อหลักทรัพย์อะไรบ้าง จัดลำดับความสำคัญของการซื้อหลักทรัพย์ขนาดใหญ่ จะต้องเริ่มจากการซื้อบ้าน แล้วจึงมาซื้อรถ จะทำให้สามารถกู้ได้ง่ายขึ้น และรู้ความสามารถที่แท้จริงในการผ่อนชำระ ว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ และเป็นการส่งเสริมวินัยการออมด้วย ไม่ให้ใช้ของฟุ่มเฟือยจนเกินตัวเองไป เรียกว่า นกน้อยทำรังแต่พอตัว
 
 
ขอบคุณรูปและข้อมูลจาก funfundforum.com 

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

เทคนิคการตั้งค่า Socialcam ไม่ให้โพสบนหน้า Facebook

ในช่วง 2-3 วันมานี้ กระแสของ Socialcam เริ่มเป็นที่รู้จักในสังคมชาว Facebook กันบ้างแล้ว ด้วยลักษณะเด่นพิเศษตรงที่ ไม่ว่าใครจะดูคลิปอะไร แบบไหน Socialcam นี้ จะเป็นตัวกระจายให้คนอื่นๆ ได้ทราบว่า คุณกำลังดูอะไรอยู่ ซึ่งถ้าหากเป็นคลิปปกติทั่วๆ ไปคงจะไม่ใช่ปัญหาอะไรครับ
 แต่สิ่งที่เป็นจุดสนใจ และทำให้คนส่วนใหญ่ เผลอกดเข้าไปดูนั้น ก็คือ คลิปประเภทวาบหวิว เซ็กซี่เล็กๆ นั่นเอง จนบางทีดูเหมือนจะเป็น scam บน Facebook ไปเลยก็ว่าได้ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย ที่เผลอกดเข้าไป และติดตั้งแอพพลิเคชั่น Socialcam แบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ทีนี้เลยกลายเป็นว่า ไม่ว่าเราจะดูคลิปอะไร Socialcam เลยทำการป่าวประกาศให้คนทั้ง Facebook รู้กันจนทั่ว จนความเป็นส่วนตัวของเรา หายไปจากหน้า Facebook

หน้าตาของโพสผ่านทาง Socialcam จะมีลักษณะเป็นเช่นนี้ครับ
ถ้าหากเราคลิ๊กที่คำว่า Socialcam จะมีหน้าต่างเด้งให้ทำการติดตั้งแอพพลิเคชั่น Socialcam ซึ่งจากหน้านี้ เราสามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวได้เลยทันที แต่เป็นเพราะคนเรามักไม่ค่อยอ่านครับ เห็นอะไรเด้งๆ ขึ้นมาก็กดๆ ผ่านไป จากตรงนี้ ให้เปลี่ยนจาก Public เป็น Only Me เพียงแค่นี้ก็ไม่มีใครรู้แล้วว่าเราดูคลิปอะไรอยู่
แต่ถ้าหากว่า ได้ทำการติดตั้ง Socialcam ไปแล้ว และอยากจะทำการแก้ไขความเป็นส่วนตัว สามารถทำได้เช่นกันครับ ดังนี้
เข้าไปที่หน้า Account Settings จากนั้นเมนูด้านซ้ายมือ จะมีคำว่า Apps ให้คลิ๊กครับ แล้วเลือก Edit ที่ Socialcam ครับ
ตรงส่วนของ Posts on my behalf ให้เปลี่ยนจาก Public เป็น Only Me เพียงเท่านี้ คนอื่นก็จะไม่รู้เลยว่า คุณกำลังดูคลิปอะไรอยู่



ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ: Techmoblog

วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2555

Line ฉลองครบ 30 ล้านดาวน์โหลด เปิดตัว 2 แอพใหม่ Line Card และ Line Camera ที่ฮาเหมือนเดิม!

ตอนนี้ถ้าให้ถามคนใช้สมาร์ทโฟน ทั้ง iPhone หรือ Android ก็คงไม่มีใครรู้จักแอพ Chat สุดน่ารักอย่าง Line อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ทางนักพัฒนาก็ได้ส่งแอพเสริมตัวใหม่มา 2 ตัวคือ Line Card และ Line Camera ออกมาเพื่อฉลองยอดดาวน์โหลดถึง 30 ล้านครั้งเข้าไปแล้ว ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งตัวสำคัญของ WhatsApp เลยครับ

ถือว่าทำยอดผู้ใช้ได้อย่างรวดเร็วมากเลยครับ สำหรับ Line เพราะ ว่าเพิ่งเปิดตัวไปแค่ประมาณ 10 เดือนเท่านั้น ตอนนี้มีผู้ใช้ถึง 30 ล้านคนทั่วโลกเลยทีเดียว (เป็นคนญี่ปุ่นซะประมาณ 13 ล้านคน) ซึ่งทั้งนี้ ทาง Line เองก็ได้เปิดตัวแอพตัวใหม่คือ Line Card และ Line Camera มาให้แฟนๆ ได้ใช้กันมันส์อีกด้วยครับ ซึ่ง Line Card เป็นแอพที่ให้ผู้ใช้ได้ส่งการ์ดสวยๆ ที่มีลายตัวการ์ตูนกวนๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถสร้าง และส่งให้เพื่อนใน Contacts ของ Line ได้เลย หรือว่าจะ Save และส่งจากแอพอื่นก็ได้
ส่่วนอีกหนึ่งแอพคือ Line Camera ตัวนี้ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งของ Instagram ก็ว่าได้ครับ เพราะนอกจากจะมีเอฟเฟคให้เลือกแล้ว ยังสามารถใส่ภาพตัวการ์ตูนฮาๆ ลงไปในภาพก่อนแชรฺ์ได้ด้วย ใครที่เคยเล่น Line คงจะรู้ว่าสติ๊กเกอร์ของ Line นั้นฮาขนาดไหน
ใครที่สนใจ Line Card และ Line Camera ก็สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ App Store หรือ Play Market จากบนมือถือได้เลยนะครับ และอย่าลืมเอารูปสวยๆ มาโพสให้ TechXcite ดูด้วยนะครับ นอกจากนี้ Line ยังเตรียมที่จะเปิดตัว สติ๊กเกอร์ชุดใหม่ด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยออกมานะครับ ดูเงาได้ที่ด้านล่างนี้เลย ^^







ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ by เฮียณัฐ@TechXcite

วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555

สงกรานต์ที่เปลี่ยนไป

    
     มีเสียงพูดกันมากว่ายิ่งวันสงกรานต์ก็ยิ่งเป็นอะไรที่ดิบ เถื่อน โหด ขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี จนแทบไม่เหลือเค้าของวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย ไปทางไหนไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ก็จะเห็นคนเอาถังน้ำใส่ท้ายรถบรรทุกไล่สาดน้ำหรือฉีดน้ำใส่กัน และน้ำที่ใช้นั้นก็ไม่ใช้น้ำหอมหรือน้ำสะอาด หากแต่ส่วนใหญ่ก็ตักหรือสูบมาจากคูคลองข้างทาง และน้ำที่ใช้สาดนั้น บางรายก็ปนสีปนแป้ง หรือหนักไปจนถึงผสมยาย้อมผมหรือเม็ดแมงลักลงไปด้วย ซึ่งการเล่นน้ำสงกรานต์แบบวิตถารเช่นนี้ ย่อมก่อให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกายและทรัพย์สินของผู้อื่น หรืออาจเกิดอันตรายถึงชีวิตหรือพิกลพิการได้

      และภาพของคนที่ออกมาเล่นสงกรานต์ ก็ไม่ใช่คนที่แต่งชุดไทยสวยงามถือขันใส่น้ำโรยกลีบกุหลาบดอกมะลิ อย่างที่เห็นในโปสเตอร์ของการท่องเที่ยวฯ หรอกครับ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงก็นุ่งน้อยห่มน้อย ถ้าเป็นผู้ชายก็อาจนุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียว ถือปืนฉีดน้ำไล่ฉีดกัน และคนที่เคยกังวลเรื่องวันวาเลนไทน์ว่าเป็นวันที่ผู้หญิงเสียเนื้อเสียตัว นั้น อาจไม่ทราบว่าสงกรานต์ก็เป็นวันที่ผู้หญิงถูกล่วงเกินทางเพศมากที่สุด และหนักหนาสาหัสกว่าวันวาเลนไทน์ เพราะเป็นการถูกกระทำโดยกลุ่มคนที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อน และกระทำการที่ป่าเถื่อนในที่สาธารณะ
 
      ผมไม่ทราบว่าเราเห็นดีเห็นงามหรือปล่อยปละให้วันสงกรานต์มีสภาพเช่นนี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ คาดว่าในตอนแรกคงเป็นเพียงความคึกคะนองของคนกลุ่มเล็กๆ แต่เมื่อไม่มีใครเข้าไปจัดการแก้ไขให้ถูกต้อง ก็กลายเป็นความนิยมที่แพร่หลายออกไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในหมู่คนไทยเราเองและนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ ซึ่งพูดก็พูดเถอะครับว่าคงไม่มีประเทศไหนในโลกที่ปล่อยให้นักท่องเที่ยวมา เดินเกือบจะเปลือยกายอยู่กลางเมืองเช่นที่เมืองไทย และก็คงไม่มีประเทศไหนในโลกที่ทำลายประเพณีอันดีงามของตน เช่นที่คนไทยทำกับวันสงกรานต์ของเรา

      ผมคิดว่ายังมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยที่เดินทางมาเมืองไทยเพื่อศึกษาวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนไทย ทำอย่างไรครับที่จะสามารถให้พวกเขาได้รู้จักและเข้าใจแก่นความคิดและปรัชญา ของสงกรานต์ มากกว่าการแต่งตัวแบบโป๊ๆ เปลือยๆ เอาปืนฉีดน้ำใส่กัน ทำอย่างไรครับ ถึงจะทำให้วันสงกรานต์เป็นวันที่ทุกคนมีความสุขร่วมกัน ไม่ใช่ความสนุกสนานของคนบางกลุ่มและความเดือดร้อนของคนบางกลุ่ม

      สิ่งที่ทำท่าว่าจะทำให้เทศกาลสงกรานต์ หรือวันฉลองปีใหม่ไทย กลายเป็นงานที่ไม่น่าเฉลิมฉลอง ไม่น่าท่องเที่ยวและกลายเป็นงานที่เต็มไปด้วยอันตรายที่จะมาถึงโดยไม่รู้ เนื้อรู้ตัวก็เพราะเกิดจากผู้ที่ไปเฉลิมฉลองกันนั้นไม่ได้มีจิตสำนึกใน เรื่องของการเฉลิมฉลองสงกรานต์ หากแต่เป็นที่ประลองความยิ่งใหญ่ของกลุ่มแก๊งที่พร้อมจะก่อเรื่องก่อเหตุ ยิ่งหากมีแอลกอฮอล์อยู่ในสายเลือดด้วยโอกาสที่จะก่อเรื่องก็เพิ่มสูงขึ้น ดังจะเห็นได้จากข่าวที่ปรากฏทั้งในหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ที่เกิดเหตุ ทะเลาะวิวาท ถึงกับฆ่ากันตาย แม้แต่ที่เมืองหลวงกรุงเทพมหานคร ถึงกับไล่ยิงกันกลางเมือง

      ประเภณีสงกรานต์ในยุคนี้ ไม่ได้ทำให้ผู้คนทำบุญใส่บาตร การสรงน้ำพระ การรดน้ำขอพรผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล หรือการเล่นสงกรานต์แบบอารยชน ผมก็เชื่อว่าหลายๆ คน คงจะเลือนๆ ไปแล้ว และจับความแค่การสาดน้ำใส่กันเท่านั้นรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ นั่นอาจเป็นเพราะวันเวลาที่เปลี่ยนไปทำให้ประเพณีสงกรานต์จากเมื่อก่อนอยู่ ในวัด ก็ไปอยู่ที่ถนนข้าวนั่น ข้าวนี่ แล้วแต่ว่า แต่ละจังหวัดจะตั้งชื่อ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไปเล่นสาดน้ำดูดซับเม็ดเงินจากการจับจ่ายของนัก ท่องเที่ยว มากกว่าจะมุ่งเน้นให้มีจิตสำนึกอันดีงาม งานฉลองสงกรานต์จึงเป็นงานประกาศศักดาของขาใหญ่แก๊งกวนเมือง เกิดเหตุทะเลาะวิวาท ฆ่ากันตายในหลายพื้นที่


       "กระทรวงวัฒนธรรม" ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเจ้าภาพในการรณรงค์ให้รักษ์ประเพณีอันดั้งเดิมและดีงามนี้เอาไว้ ก็จัดงานรดน้ำขอพรศิลปินแห่งชาติ ผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม ไปตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน โดยมุ่งส่งเสริมให้ประชาชนได้ตระหนักและร่วมกันสืบสานคุณค่าความงดงามของ ประเพณีสงกรานต์ ตามแบบวิถีไทย ก็ไม่ได้ทำให้การสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย รวมทั้งจิตใจของคนไทยดีขึ้นไปกว่าแต่ก่อน แต่ดูจะเลวร้ายจนน่าจะกู่ไม่กลับกันเสียมากกว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่การทำหน้าที่รณรงค์สืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของไทย จะต้องรุกให้ถึงในทุกระดับ และเข้มแข็งมากกว่าการกระตุ้นเตือนเพียงแค่ปีละครั้งก่อนถึงวันเทศกาล เพราะวันนี้เหตุปัจจัยที่ทำให้วัฒนธรรมไทยผิดเพี้ยนมันมากเกินกว่าจะใช้วิธี ช้าๆ เนิบๆ เหมือนอย่างที่ทำกันอยู่ในขณะนี้


ขอบคุณข้อมูลจาก คอลัมน์วันเว้นวัน จันทร์ พุธ ศุกร์ กับ ประภัสสร เสวิกุล (komchadluek.net)

วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

5 ผลไม้ สุดชื่นใจในหน้าร้อน

เข้าเดือนเมษายนกันแล้ว เพื่อนๆ คงเจออากาศร้อนจนเหงื่อไหลไคลย้อยกันเลยทีเดียว...การดูแลสุขภาพในหน้าร้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อนๆ ควรเลือกทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด ส่วนผลไม้ที่ช่วยคลายร้อนก็จัดไป 5 อย่างตามนีครับ

1. แตงโม ผลไม้ที่มีน้ำประกอบอยู่เป็นจำนวนมาก จึงไม่ต้องแปลกใจที่เมื่อใดที่ได้ทานแตงโมยิ่งแช่เย็น เราจะรู้สึกชดชื่นมากมาย ด้วยความที่แตงโมงมีคุณสมบัติเย็น จึงช่วยลดอาการไข้ คอแห้ง บรรเทาแผลในปาก อีกทั้งมีเบตาแคโรที กินแล้วผิวพรรณดี ไม่แก่ก่อยวัยด้วยนะจะบอกให้

2. แตงไทย ในแตงไทยจะมีคาร์โบไฮเดรด แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และวิตามินซี (ประโยชน์เยอะแท้) เนื้อของแตงไทยมีฤทธิ์เย็น จึงช่วยดับกระหายได้เป็นอย่างดี นอกจากคุณสมบัตรข้างตนแล้วยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง อาทิเช่น แก้เลือดกำเดาไทล ดอกอ่อนตากแห้งต้มดื่มช่วยให้อาเจียน แก้โรคดีซ่าน หรือบดเป็นผงพ่นแก้แผลในจมูก เมล็ดแก่ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร แก้ไอ รากต้มดื่มช่วยระบายท้อง

3. มะพร้าว น้ำ มะพร้าวเป็นน้ำผลไม้ที่ดีที่สุดชนิดหนึ่งมีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการครบถ้วน มีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ภายใน 5 นาที ทั้งนี้ยังเป็นประโยชน์ในการขับสารพิษและชำระล้างร่างกายด้วย

4. ส้ม เป็นผลไม้ตระกูล Citrus ที่ให้ทั้งรสเปรี้ยวและหวาน จึงอุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ มากมาย ที่เด่นที่สุดคือ ให้วิตามินซีสูง นอกจากนี้ ยังมีแคลเซียม วิตามินเอ บี โปแตสเซียม แคลเซียม ใยอาหาร ฟอสฟอรัส เหล็ก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เวลาทานส้มเราจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ขึ้นมาในทันที

5. มะม่วง จากการศึกษาวิจัยพบว่า มะม่วง เป็นผลไม่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย แหล่งของวิตามินเอ วิตามินซี ที่สำคัญมะม่วง ยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันของเรา มีความแข็งแรง เพื่อเป็นเกราะป้องกัน เชื้อโรค ไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ของเรานั่นเอง นอกจากนี้ ยังพบสารอาหาร ในมะม่วงอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ไฟเบอร์ เกลือแร่ อาทิเช่น ฟอสฟอรัส แคลเซียม เป็นต้น


ขอบคุณข้อมูลและรูปจาก Sanook! Campus

10 เกาะสวยสุดฮอต น่าเที่ยว น่าพัก รับลมร้อน

เห็นฟ้าสวยแดดใสทีไรก็นึกอยากไปเที่ยวทะเลทุกที หน้าร้อนนี้หากใครจะไปโต้คลื่นอ่าวไทย หรือแหวกว่ายในทะเลอันดามัน ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโดนใจคนรักทะเลอย่างเกาะสวยๆ ติดอันดับในเมืองไทย ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนคลายร้อนในวันหยุดแบบสั้นๆ หรือจะเป็นทริปวันหยุดยาว ก็มีมาให้เลือกแบบจุใจ เพราะเราเชื่อว่าเกาะแต่แห่ง นอกจากจะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ทุกคนได้สัมผัสแล้ว ยังมีสิ่งกิจกรรมเซอร์ไพรส์สำหรับคนรักทะเลให้สนุกแบบไม่จำกัด ชอบเกาะไหนก็ตามมาอ่านกันได้เลย














 


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ sanook.com