กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกออนไลน์สำหรับคลิปที่มีสมาชิกชื่อ Chintakoza โพสท์คลิปในเว็บไซต์ยูทูป หัวเรื่อง “เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ “ ปรากฎภาพเด็กชายคนหนึ่งที่อัดคลิปส่งข้อความไปถึงเพื่อนชื่อ บอล ที่ขับไล่ตนออกจากกลุ่ม 1/9 ด้วยการถามเพื่อนว่า "คิดได้เนาะ ให้ทุกคนไล่ออกจากกลุ่ม 1/9 ก็เพราะเรื่องกระโหลกกะลาแค่นี้เองเหรอ ทำไมอ่ะ เห้อะ ทำไมต้องไล่ออกด้วย ก่อนที่จะส่งท้ายข้อความข่มขู่ว่า ถ้าไม่เอาตนเข้ากลุ่ม 1/9 เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่"
โดยก่อนหน้านี้มีคลิปก่อนเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ v.1 และ v.2 ที่ระบุว่า "ตอนเนี๊ยเข้ากลุ่มพวกเราชาว 1/9 ไม่ได้เลย ทำไมหงะไอ้เรื่องแค่เนี๊ยแล้วมันหนักกบาลใครอะ ..จุดก็จุดแล้ว..มาเสือกจุดด้วยอะ"
ในคลิปก่อนเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ v.1 มีผู้โพสท์ข้อความที่อ้างว่า เป็น “บอล” ที่ถูกกล่าวถึง ระบุว่า
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า ด.ช บอลกะเด็กคนนี้เล่นเฟรสด้วยกันแล้วจัดตั้งกลุ่มกันเป็นกลุ่มของตัวเองแล้วเอางานมาทำกันในนั้นแล้วไอ้เด็กคนนี้มันไม่ช่วยอะไรเลยแถมไปกวนเค้าด้วยการ.แบบนี้ไปประมาน100ครั้งกว่าๆ ข้อมูลหรืองานก้อหายไปเพื่อนๆในกลุ่มก้อตัดสินใจให้ ด.ช บอลที่เป็นแอดมินมินไล่ออกจากกลุ่ม ไอเด็กนี้ก้อโมโหตามประสาเด็กๆ เลยอัดคลิปครูอังคนามาให้ดูกัน
เห็นทีเรื่องนี้ไม่เพียงเรื่องจะถึงครูอังคณาเท่านั้น แต่คนทั่วประเทศกำลังรับรู้เรื่องราวที่เด็กชายคนนี้ถูกขับออกจากกลุ่มด้วยเรื่องกระโหลกกะลา แบบ จุด จุด จุด
แค่เพียง 12 ชั่วโมงให้หลัง หลังจากที่โลกโชเชียลเน็ตเวิร์กกระหน่ำพูดถึงคำว่าคลิปวิดีโอ “เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่” จนกลายเป็นวลีฮิตล่าสุดในสังคมตลอดวันที่ผ่านมา
ครูอังคณาที่ถูกพาดพิงได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวไว้ว่า
“เรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม 2555 ที่ผ่านมาเด็กชายบอล ซึ่งเป็นหัวหน้าห้อง ม.1/9 ได้ตั้งกลุ่มในเฟชบุ๊กขึ้นมาเพื่อไว้ติดต่อสื่อสารเรื่องการเรียน การบ้าน ตารางสอบ งานกลุ่มในชั้นเรียน โดยมีครูอังคณาร่วมอยู่ในกลุ่มด้วย
ซึ่งทางครูเองนานๆ ครั้งถึงจะเข้าไปดู แต่ก็ได้ตั้งกฎประจำกลุ่มเอาไว้ว่า ห้ามใช้คำหยาบ ห้ามมีพฤติกรรมเชิงชู้สาว และหากใครไม่มีเฟชบุ๊ก ก็ให้โทรแจ้งงานเพื่อนที่ไม่มีเฟชบุ๊กด้วย พร้อมกับบอกให้นักเรียนทราบว่า อะไรควรหรือไม่ควรในการใช้เฟชบุ๊ก และมักเตือนอยู่เสมอว่า โพสต์หรือพิมพ์อะไรลงไป ควรคำนึงถึงภาพลักษณ์ตัวเอง เพื่อนๆ และโรงเรียนด้วย เพราะสิ่งที่คุณทำลงไปมันเกิดผลกระทบได้ทั้งหมด”
“จนกระทั่งในวันที่เกิดเรื่อง เด็กชายบอล ซึ่งเป็นหัวหน้าห้องกำลังใช้เฟชบุ๊กทำงานอยู่ แต่มี เด็กชายโต๊ด เพื่อนร่วมห้องโพสต์คอมเมนท์เป็นเครื่องหมาย “…” ติดกันจนเยอะเกิน ทำให้ระบบค้างและงานที่หัวหน้าห้องกำลังสื่อสารกันอยู่หายไป จึงตัดสินใจลบ เด็กชายโต๊ด ออกจากกลุ่ม ซึ่งหลังเกิดเหตุการณ์นี้ ครูอังคณาก็ได้เรียกนักเรียนมาพูดคุยกันและย้ำถึงกฎกลุ่มในเฟชบุ๊ก สรุปว่าทุกอย่างจบลงด้วยดี เด็กชายโต๊ด ก็กลับเข้ากลุ่ม ม.1/9 ได้เช่นเดิม”
“ส่วนกรณีเรื่องของคลิปวิดีโอ ยืนยันกับครูอังคณาว่า ไม่ได้เป็นคนนำเอาโพสต์ หรืออาจจะกรณีที่ว่า เด็กชายโต๊ดเคยนำไปโพสต์ไว้จริงและลบไปแล้ว แต่มีบางคนเซฟวิดีโอนั้นและนำไปเผยแพร่ต่อ เพราะเรื่องนี้จบลงไปด้วยดีแล้วตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา”
“สำหรับครูอังคณาเป็นครูค่อนข้างที่ใจดีมาก แต่มีเรื่องเดียวที่ครูรับไม่ได้คือ นักเรียนในชั้นเรียนตัวเองทะเลาะวิวาทกัน ส่วนคำว่า “เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่” น่าจะเป็นเพราะ ครูมักจะสอนเด็กนักเรียนในฐานะเป็นครูที่ปรึกษาว่า ถ้าเกิดมีอะไรขึ้น ขอให้ครูได้รับรู้จากปากนักเรียนเอง อย่าให้ครูไปได้ยินจากคนอื่น ก่อนจะมาได้ยินจากปากนักเรียน จึงคิดว่าน่าจะเป็นเพราะประเด็นนี้ ถึงเกิดเป็นคำดังกล่าวขึ้น”
“ส่วนกระแสในอินเตอร์เน็ต คืออยากจะบอกว่า คนที่แอบอ้างว่าเป็น ครูอังคณา เด็กชายบอล หรือ เด็กชายโต๊ด ให้เลิกแอบอ้างและลบทิ้ง เพราะพวกคุณกำลังสนุกและวิพากษ์วิจารณ์อยู่บนความทุกข์ของคนอื่นอยู่ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนชั้น ม.1 ที่ตอนนี้พวกเขาก็วิตกอยู่ไม่น้อย”
รวมคลิปเรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น