วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

เครดิตบูโร การ์ตูนขำๆ แต่ได้ความรู้ จากนายพากเพียร

เครดิตบูโร ใช้หนี้ก่อนถูกฟ้อง
                เครดิตบูโรคือ สถาบัน ที่เก็บรวบรวมข้อมูลของการชำระสินเชื่อหรือบัตรเครดิต ซึ่งข้อมูลนี้จะประกอบไปด้วย ข้อมูลส่วนที่บ่งชี้ถึงตัวบุคคล เช่น ชื่อนามสกุล ที่อยู่ เลขประจำตัวประชาชน และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นประวัติการชำระสินเชื่อบนระบบสถาบันการเงิน และการชำระบัตรเครดิตต่างๆ ทั้งหมดของบุคคลนั้น รวมเรียกว่า "รายงานข้อมูลเครดิต" รายงานข้อมูลเครดิตจะมีการบันทึกและจัดเก็บวงเงินยอดหนี้คงค้าง รวมถึงประวัติการชำระลักษณะปกติและผิดนัดชำระในแต่ละสิ้นเดือนย้อนหลังไม่ เกิน 36 เดือน
                โดยปัจจุบันมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ แบล็กลิส หรือ บัญชีดำ แบบผิดๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว เครดิตบูโรจะไม่มีสิทธิ์ในการจัดแบล็กลิสผู้ขอสินเชื่อ เพราะเครดิตบูโรจะทำหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลประวัติการชำระสินเชื่อหรือ บัตรเครดิตของสินเชื่อทุกบัญชีจากสถาบันการเงินตามข้อเท็จจริงเท่านั้น ซึ่งสถาบันการเงินจะใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณา อนุมัติสินเชื่อ เพราะการตัดสินใจว่าจะอนุมัติสินเชื่อหรือไม่นั้นยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก เช่น รายได้ของผู้ขอสินเชื่อ หลักประกัน บุคคลผู้ค้ำประกัน เป็นต้น ในทางกลับกัน หากผู้ขอสินเชื่อมีประวัติการชำระสินเชื่อที่ตรงต่อเวลา และไม่มียอดหนี้คงค้างหรือมียอดหนี้คงค้างเป็นจำนวนเงินไม่มากนัก รายงานเครดิตบูโรก็จะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้สถาบันการเงินพิจารณา อนุมัติสินเชื่อได้รวดเร็วและง่ายยิ่งขึ้น
                โดยปกติทุกคนควรที่จะรักษาประวัติการชำระให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีหรือตรงต่อเวลา ก็จะช่วยให้การขอสินเชื่อในอนาคตมีโอกาสได้รับอนุมัติที่สูงขึ้น การปล่อยให้ประวัติการชำระเงินค้างไปเรื่อย ๆ จะทำให้ถูกบันทึกว่าค้างชำระ จนกระทั่งอาจจะถูกสถาบันการเงินฟ้องร้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย
สำหรับ ใครบางคนที่บอกว่าไม่เห็นจะมีเจ้าหน้าที่มาทวงถาม หรือไม่เห็นว่าสถาบันการเงินจะทำการฟ้องร้องตนเองเลย สาเหตุเนื่องมาจากว่าลูกหนี้เหล่านี้มักจะมีมูลหนี้ที่ค้างชำระไม่มาก ทางสถาบันการเงินจึงไม่คิดที่จะติดตามทวงถามอย่างจริงจังเนื่องจากไม่คุ้ม ค่าใช้จ่าย แต่ทางสถาบันการเงินส่วนใหญ่จะมีการปล่อยให้ลูกหนี้เหล่านี้มีประวัติค้าง ชำระอยู่ในฐานข้อมูลเครดิตบูโรไปเรื่อย ๆ เมื่อใดก็ตามที่ลูกหนี้มีความจำเป็นที่จะต้องขอสินเชื่อเพิ่มเติมจากสถาบัน การเงินอื่นๆ ประวัติค้างชำระเหล่านี้จะลดโอกาสให้ลูกหนี้ได้รับการพิจารณาอนุมัติสิน เชื่อ สุดท้ายแล้วลูกหนี้จะต้องติดต่อกลับมาที่สถาบันการเงินที่ตนเองเคยมีประวัติ ค้างชำระอยู่ เพื่อทำการเจรจาชำระหนี้ที่คงค้างอยู่โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ตนเองกลับมามี สถานะผ่อนชำระเป็นปกติดังเดิม ดังนั้นแล้วความคิดที่ปล่อยให้มีประวัติค้างชำระไปเรื่อย ๆ คงจะเป็นความคิดที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะเราทุกคนคงจะไม่อยากมีปัญหาในอนาคตเมื่อมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ เครดิตของตนเองในการขอสินเชื่อ

 
ขอบคณข้อมูลบางส่วนจากบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร)
และนายพากเพียรแห่ง funfundforum.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น