วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555

จากแก๊งกวนเมืองสู่ "ร้านนมสด"

จากแก๊งกวนเมืองสู่ "ร้านนมสด" คอลัมน์เปิดโลกอินเทรนด์ โดย rachaya@nationgroup.com

แต่น...แตน...แต๊น...เรื่องของเรื่องอินเทรนด์ที่ว่านี้ คือเด็กแว้นขาโจ๋แห่งแก๊งมังกรดำ มาขายนม
เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงแล้วก็มีจริง อยู่ที่ขอนแก่นนี่เอง
พี่เปี๊ยก ดิษฐ์จรัส อสุชีวะ ของน้องๆ ซึ่งเคยเป็นขาโจ๋ ขาใหญ่ เพราะในอดีตเป็นถึงหัวหน้าแก๊ง "มังกรดำ" เล่าว่าช่วงที่เขาเป็นหัวหน้านั้น ถือเป็นแก๊งขนาดใหญ่ มีสมาชิกประมาณ 400-500 คนทีเดียว

          แก๊งมังกรดำนี้ เริ่มตั้งกลุ่มเมื่อ 14 ปีก่อน มีการสืบทอดวัฒนธรรมกลุ่มจากรุ่นสู่รุ่น ข้อสังเกตที่เห็นได้เด่นชัดว่าเป็นคนของแก๊งนี้ คือรอยสักมังกรที่ตัว หากอยู่ในระดับแกนนำกลุ่ม รอยสักมังกรจะใหญ่เต็มแผ่นหลัง

          เด็กวัยรุ่นที่เข้ามาร่วมแก๊งส่วนใหญ่ ได้รับความเดือดร้อนจากครอบครัว จากตำรวจ บ่อยครั้งที่ความผิดเล็กน้อยของเด็กกลับถูกนำตัวเข้าสถานพินิจและคุ้มครอง เด็ก ซึ่งสถานที่แห่งนั้นไม่ได้ฝึกฝนให้เด็กเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม แต่กลับเป็นสถานที่ฝึกฝีมือ เพิ่มอาชญากรรมในสังคม

          แต่แล้ววันหนึ่งก็มี อังคาร ชัยสุวรรณ หรือ ‘พี่มหา’ ครูอาสาสอนเด็กเร่รอน สำนักการศึกษาเทศบาลนครขอนแก่น เข้ามาตีซี้ แล้วก็พยายามชักชวนให้เขาหลุดพ้นจากการเป็นเด็กแว้น แก๊งก่อกวน ซึ่งช่วงแรกหัวหน้าแก๊งจะปฏิเสธ เพียงเพราะคิดว่าจะมาจับผิด และไม่ไว้ใจระบบราชการ แต่สุดท้ายก็ตอบตกลงที่จะเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

          เปี๊ยก บอกวา การกลับมาสู่ด้านดีนั้น มิใช่ทำเพียงครั้งเดียวจะสำเร็จ ต้องเหมือนน้ำซึมบ่อทราย เพราะเรารู้ปัญหาว่าต้องโดนต่อต้าน ทั้งในกลุ่มตัวเอง และกลุ่มอื่น ดังนั้น จึงค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่เขาเชื่อใจพี่มหา แล้วก็ออกมาชักนำน้องๆ ให้เปลี่ยนชีวิตใหม่แบบเขาด้วย

          เขายอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะแต่ละคนล้วนมีที่มาจากปัญหา อย่าง ‘น้องเพชร’ หรือ ณัฐวุฒิ อายุ 17 ปี หนึ่งในเด็กที่ใช้ชีวิตอยู่ในกลุ่มแก๊งแล้วตระเวนไปทั่วเมืองขอนแก่น บอกว่า หลังจากจบ ป.6 เขาไปบวชเรียน บวชได้ไม่นานมีเรื่องวิวาทกับเณรด้วยกัน จึงต้องสึกออกมา หลังจากนั้นก็ทำงานรับจ้างทั่วไป เมื่อไม่มีเงินก็ขอ “เจ๊” ส่วนวันที่ไม่มีงาน “ก็ไปแว้นกับเพื่อนๆ” ซึ่งหมายถึงการขับมอเตอร์ไซค์ไปทั่วเมือง

          “เพื่อนชวน อยากรู้ อยากลอง” เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้น้องเพชรเลือกเดินทางนี้ เงินที่ได้จากการทำงาน มักจะดื่มเหล้ากับเพื่อน ด้วยความเยาว์เดียงสาทำให้น้องเพชรเดินเข้าสู่เส้นทางที่มืดมน ซึ่ง เจ๊ ที่น้องเพชรเล่าถึง ก็คือคนที่มาซื้อบริการทางเพศกับกลุ่มเด็กๆ อย่างน้องเพชร แม้จะไม่รู้มาก่อนว่าจะต้องเจอกับอะไร เพียงเพื่อต้องการเงินเขาจึงจำยอม

          ไม่ต่างจาก ‘น้องอู๋’ ภานุวัฒน์ จักโนกร อายุ 14 ปี อีกหนึ่งคนที่ต้องเจอกับปัญหาเดียวกับน้องเพชร “ผมเรียนไม่จบ ม.1 ด้วยซ้ำ ผมก็โดนไล่ออก เพราะผมตีกับเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนคนนั้นหัวแตก” หลังจากที่น้องอู๋โดนไล่ออก ก็ไม่ได้ทำอะไร เวลาส่วนใหญ่เล่นเกมและอยู่กับกลุ่มเพื่อน เพื่อนทำอะไรก็ทำตามเขา โดยไม่รู้เลยว่ากำลังทำอะไรอยู่

          "และแล้วน้องๆ กลุ่มนี้ก็เปลี่ยนแนวววว จาก เด็กแว้น มาขายนมสด..."

          เมื่อทุกคนมารวมตัวกัน และอาศัยบ้านเช่าที่พี่เปี๊ยกจัดไว้ให้ ก็ต้องเริ่มหาอาชีพให้ ดังนั้น จึงได้จัดอบรมอาชีพเพื่อให้เขาสามารถประกอบอาชีพได้ในอนาคต เรียกได้ว่าเป็นการอบรมแบบต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่เข้าค่ายเพียง 2-3 วันแล้วเลิกไป

          เมื่อผ่านกิจกรรมต่างๆ ของโครงการแล้ว เด็กๆ กลุ่มนี้ยังได้ฝึกอาชีพ ได้ค่าแรงจากการทำงานในโครงการเช่น โครงการหล่อพระหล่อใจ โครงการสร้างมณฑปแก้วครอบพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม โครงการเพาะเห็ดขอนขาว ผลิตเห็ดต่างๆ ให้แก่โรงเรียนต่างๆ โครงการทำการเกษตรพอเพียง

          แต่ที่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นแล้ว รุ่ง หรือประทับใจ ต้องนี่เลย ร้านนม Flow Milk จึงได้รวมตัวกันเปิดร้านขายนมซะเลย ที่บริเวณโฮงมูนมัง เมืองขอนแก่น

          สิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนว่า น้องๆ เขาเปลี่ยนแนวความคิด และเปลี่ยนวิถีชีวิต และยังอินเทรนด์สุดๆ ด้วยการขายนมสด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพนิยมของคนรุ่นใหม่

          สำหรับวันนี้ แม้ชีวิตพวกเขาจะไม่หวือหวา แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นคือ ชีวิตมีคุณค่า และหาเลี้ยงตัวเองได้ พร้อมกับยิ้มได้อย่างสบายใจ กับอาชีพใหม่ ที่ทันสมัยและอินเทรนด์ ก็อย่างนี้แหละ คนรุ่นใหม่ หัวใจอินเทรนด์ ก็ต้องทำอะไรอินเทรนด์แบบนี้แหละ ...ขอปรบมือให้จร้า...


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก komchadluek.net

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น