วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

Volkswagen Amarok ..จับตาให้ดี ว่าที่กระบะม้ามืดตัวจริง

เป็นที่ติดตามกันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ในอเมริกา  General Motor หรือ GM ประกาศเตรียมซื้อหุ้นรถยนต์กระบะยอดนิยมของญี่ปุ่น  Isuzu  หลังจากมีการถอนหุ้นไปบ้างและในงวดนี้ที่  GM  กลับมาก็จะกลายเป้นรายใหญ่ด้วยหุ้น 10%
 
ความจริงเรื่องหุ้นก็คงไม่ใช่เรื่องที่ใครหลายคนสนใจมากมายอะไรนัก แต่ในข่าวดังกล่าวมีเรื่องเกียวกับบ้านเราที่น่าสนใจ ที่มีการกล่าวถึงสัญญาของรถยนต์กระบะ  Isuzu  กับแบรนด์  Volkswagen AG  ที่จะส่งมอบรถยนต์กระบะให้กับ  Volkswagen  ในประเทศไทย
หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ว่าค่ายรถยนต์ยุโรปเจ้านี้มีรถกระบะ ด้วยเหตุ volkswagen  อาจจะถูกมองว่าเป็นรถยนต์จากตลาดยุโรป แต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เราก็มีโอกาสเห็นมันตัวเป็นๆที่งาน Boi  ตลอดจนภาพอีกหลายภาพที่ออกตามมา ทำให้ เราต้องกลับมาพาเพื่อนๆไปรู้จักว่า รถยนต์กระบะ Volkswagen  ที่อาจจะเป็นว่าที่น้องใหม่ตลาดกระบะบ้านเรา

Volkswagen Amarok  ยอดกระบะพันธุ์แกร่งสายเลือดยุโรป ว่าที่รถยนต์รุ่นใหม่ในบ้านเรามีความเป็นไปได้สูงจากข่าวคราวของค่ายรถยนต์  Isuzu  และ  GM  ที่แม้หน้าตารวมถึงชื่อเสียงรถรุ่นนี้จะไม่โด่งดังในไทยมากมายนัก แต่ก็เป็นกระบะที่มีชื่อเสียงรุ่นหนึ่งในตลาดโลกเลยทีเดียว
Volkswagen Amarok  เป็นรถกระบะที่ถือครองตลาดรถยนต์กระบะในยุโรปกันมานาน และเมื่อไม่นานมานี้มันก็เริ่มที่จะออกวางจำหน่ายทั่วโลกในเวอร์ชั่น 4 ประตู โดยรุ่นล่าสุดที่ผลิตออกมาเอาใจสิงห์กระบะคือรุ่นปี 2011 ที่มีการปรับแต่งมากมายหลายประการด้วยกัน
ภายนอก Volkswagen Amarok   นำเสนอเรือนร่างในสไตล์สปอร์ตดุดันเติมเส้นสายที่ยังให้อารมณ์ที่ทันสมัย มากยิ่งขึ้น  ด้วยเอกลักษณ์ใหม่ของค่าย Volkswagen  มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนที่ใช้กระบะไม่ใช่แค่แต่เพียงเป็นม้าใช้ สำหรับคนทำงานเท่านั้น แต่   เรือนร่าง Volkswagen Amarok ถูกขลับให้มีความสปอร์ตและยังดูดีทุกที่ที่มันไปใบหน้าใหม่ที่ลงตัวกับไฟ หน้าที่เบิกกว้างกระจังหน้าโครเมี่ยมให้ความรู้สึกหรูหรา และเส้นสายโป่งล้อที่ดูดุดัน  ตั้งแต่ใบหน้าจรดบั้นท้ายตอบสนองเหมือนกัน โดยในต่างประเทศนั้น มีการแบ่งรถออกเป็น 3 รุ่น คือ Baseline,Trendline และ  Highline  โดยแต่ละรุ่นจะมีการตบแต่งรายละเอียดที่แตกต่างกัน เช่น รุ่นเริ่มต้นเน้นความคงทนด้วยอุปกรณ์อัตโนมือเป็นสำคัญ ส่วนรุ่นท๊อปจัดเต็มกับล้อขอบ 17 นิ้วจากโรงงาน  เป็นต้น
ในห้องโดยสาร  Volkswagen Amarok  ถือว่าเป็นรถกระบะที่มีพื้นที่ห้องโดยสารที่มากที่สุดในกลุ่มรถกระบะขนาด กลาง ด้วยห้องโดยสารยาว 1,555 มม. กว้าง 1620 ม.ม. ในรุ่น 4 ประตู เช่นเดียวกับพื้นที่บรรทุกที่มีความกว้างระหว่างล้อ 1,222 ม.ม. สามารถรองรับอัตราบรรทุกถึง 1.15 เมตริกตัน และ ยังมีกำลังฉุดลาก 2.8 ตัน
พละกำลังมหาศาลสามารถตอบสนองได้หลากหลายรูปแบบ การใช้งาน  ได้กำลังมาจากเครื่องยนต์ดีเซล  Tdi 2.0 ลิตร พร้อมระบบเทอร์โบชาร์จคู่ 2 จังหวะ ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และปั่นฝีเท้าเรียกแรงบิดกว่า 400 นิวตันเมตร สูงสุด ที่ 1500 รอบต่อนาทีตอบสนองการใช้งาน และยังประหยัดด้วยตัวเลข 13 ก.ม. /ลิตร (7.6 ลิตร/100 ก..ม.)เป็นมาตรฐาน ในรุ่น 4X2
นอกจากความสามารถของเครื่องยนต์ที่น่าประทับใจแล้ว  Volkswagen Amarok ยังมาพร้อมทางเลือกสำหรับลูกค้า กับฟังชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อ 4 Motion ที่สามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งระบบนี้ให้ทำงานตลอดเวลา หรือไม่คุณอาจะเลือกเป็นขับเคลื่อน 2 ล้อ หรือ แค่ชั่วคราวได้ตามต้องการเพียงสั่งจากโชว์รูม แต่ Volkswagen อ้างว่า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใ น  Volkswagen Amarok  สามารถไต่มุมชัน 45 องศาได้ โดยไม่เป็นปัญหา แม้จะบรรทุกเต็มพิกัด แต่สำหรับใครที่ชอบใช้งานแบบหนักหน่วงตลอดเวลา ทาง Volkswagen ก็อยากนำเสนอแพ็คเกจพิเศษ ที่จะเพิ่มสปริงช่วงในการทรงตัวของรถดียิ่งขึ้น ถ้าคุณบรรทุกหนักบ่อยๆ

Volkswagen Amarok อาจจะยังไม่มีข่าวคราวออกมามากมายนักสำหรับบ้านเรา แต่ด้วยประเทศไทยถือเป็นตลาดกระบะอันดับที่ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา จึงมีความเป็นไปได้ที่ในไม่ช้าเราจะได้พบรถรุ่นนี้ ส่วนหน้าตาจะเป็นเช่นไร คงต้องติดตามกัน ...

ขอบคุณข้อมูลจาก ณัฐยศ ชูบรรจง  และภาพโดย Netcarshow

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น